เมนู

อรรถกถาวัตตัพพังสังโฆ ทักขิณัง วิโสเธตีติกถา



ว่าด้วย ไม่พึงกล่าวว่าพระสงฆ์ยังของทำบุญให้บริสุทธิ์



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่อง ไม่พึงกล่าวว่าพระสงฆ์ยังของทำบุญให้บริสุทธิ์
คือทำให้มีผลมาก. ในปัญหานั้นชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกาย
เวตุลลกะนั้นนั่นแหละว่า มรรคและผลเท่านั้นชื่อว่า พระสงฆ์ ก็มรรค
และผลเหล่านั้นย่อมไม่อาจเพื่อทำทักษิณาให้บริสุทธิ์ได้ เพราะฉะนั้น
จึงไม่พึงกล่าวว่า พระสงฆ์ยังของทำบุญให้บริสุทธิ์ ดังนี้ คำถามของ
สกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที.
คำว่า เป็นผู้ควรของบูชา เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงว่า
ถ้าว่า พระสงฆ์ไม่อาจเพื่อให้ทักษิณา คือของทำบุญ บริสุทธิ์ไซร้ พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าก็คงไม่กล่าวยกย่องพระสงฆ์นั้นอย่างนี้. คำว่าให้บริสุทธิ์
ได้แก่ ทำให้มีผลมาก จริงอยู่ ทานมีปริมาณน้อยที่เขาถวายแล้วในสงฆ์
ย่อมเป็นทานมีผลมาก ทานที่มีปริมาณมากที่เขาถวายแล้วในสงฆ์ก็ย่อม
มีผลมากกว่า. คำว่า เป็นผู้ควรของทำบุญ (ทกฺขิเณยฺย) ได้แก่ ผู้ควร
แก่ทักษิณา คือสมควรแก่ทานที่เขาให้ด้วยความเคารพ อธิบายว่า ผู้
สามารถเพื่อทำทักษิณานั้นให้บริสุทธิ์. คำว่า ชื่นชมบุญ คือทักษิณา
ได้แก่ ให้บุญ คือทักษิณา นั้นถึงพร้อม อธิบายว่า ย่อมให้บรรลุผลอันใหญ่
ด้วยทักษิณาแม้มีปริมาณน้อย. คำที่เหลือในที่นี้มีนัยตามที่กล่าวแล้วนั่นแล.
อรรถกถาวัตตัพพังสังโฆทักขิณังวิโสเธตีติกถา จบ

นวัตตัพพังสังโห ภุญชตีติกถา



[1718] สกวาที ไม่พึงกล่าวว่า พระสงฆ์ ฉัน ดื่ม เคี้ยว ลิ้ม ได้
หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. คนบางพวกที่ทำสังฆภัต อุทเทสภัต ยาคูและปานะ
มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า คนบางพวกที่ทำสังฆภัต อุทเทสภัต ยาคู และ
ปานะ มีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า พระสงฆ์ ฉัน ดื่ม เคี้ยว
ลิ้ม ได้.
[1719] ส. ไม่พึงกล่าวว่า พระสงฆ์ ฉัน ดื่ม เคี้ยว ลิ้ม ได้หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคณะโภชนะ ปรัมปรโภชนะ
อติริตตโภชนะ อนติริตตโภชนะ ไว้มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคณะโภชนะ
ปรัมปรโภชนะ อติริตตโภชนะ อนติริตตโภชนะไว้ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึง
ต้องกล่าวว่า พระสงฆ์ ฉัน ดื่ม เคี้ยว ลิ้ม ได้.
[1720] ส. ไม่พึงกล่าวว่า พระสงฆ์ ฉัน ดื่ม เคี้ยว ลิ้ม ได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสปานะ 8 คือ น้ำมะม่วง
น้ำลูกหว้า น้ำกล้วยมีเมล็ด น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด น้ำมะซาง น้ำลูกจันทน์